You are currently viewing ไขข้อสงสัย! รอยแดงจากการครอบแก้วอันตรายหรือไม่?

ไขข้อสงสัย! รอยแดงจากการครอบแก้วอันตรายหรือไม่?

หากคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ Cupping Therapy หรือ การครอบแก้วบำบัด มาก่อน คุณอาจคุ้นเคยกับภาพรอยวงกลมสีแดงบนแผ่นหลังของนักกีฬา คนดัง หรือผู้ที่เพิ่งรับบริการบำบัดประเภทนี้ รอยแดงดังกล่าวมักทำให้หลายคนสงสัยว่า รอยแดงจากการครอบแก้วอันตรายหรือไม่? บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยให้ชัดเจน พร้อมอธิบายถึงความหมายของรอยแดงที่เกิดขึ้น และทำไมรอยแดงนี้จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อสุขภาพ

Cupping Therapy คืออะไร?

Cupping Therapy หรือ การครอบแก้วบำบัด เป็นวิธีบำบัดสุขภาพที่มีต้นกำเนิดจากการแพทย์แผนจีนโบราณและยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน วิธีการคือใช้ถ้วยแก้ว หรือถ้วยซิลิโคนมาสร้างแรงดูดสุญญากาศบนผิวหนัง ทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อบางส่วนถูกยกขึ้น ผลลัพธ์คือช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและการไหลเวียนของน้ำเหลือง เสริมกระบวนการขจัดสารพิษในร่างกาย

การครอบแก้วมักใช้ในการบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ความตึงเครียดในร่างกาย รวมถึงช่วยปรับสมดุลพลังงานภายในร่างกาย การครอบแก้วในปัจจุบันสามารถพบได้ในศูนย์สุขภาพ สปา ศูนย์ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และคลินิกบำบัดทั่วโลก

รอยแดงจากการครอบแก้วคืออะไร?

หลังจากทำการครอบแก้ว หลายคนมักสังเกตเห็น รอยวงกลมสีแดงหรือสีม่วง ที่เกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณที่ทำการครอบแก้ว รอยนี้เกิดจากการที่ถ้วยสร้างแรงดูดจนทำให้หลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว การไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงไหลออกจากหลอดเลือดบางส่วน ทำให้เกิดเป็นรอยแดงหรือรอยช้ำเล็ก ๆ บนผิวหนัง

รอยแดงจะอยู่ได้นานแค่ไหน?

รอยแดงจากการครอบแก้วไม่ใช่อาการบาดเจ็บ และมักจะจางหายไปเองภายใน 3-7 วัน โดยขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคน และความเข้มของรอยแดงจะลดลงตามวันเวลาที่ผ่านไป

รอยแดงจากการครอบแก้วอันตรายหรือไม่?

คำตอบคือ ไม่อันตราย รอยแดงจากการครอบแก้วไม่ใช่รอยฟกช้ำแบบเดียวกับรอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระแทก เพราะไม่มีการฉีกขาดของเส้นเลือดหรือเนื้อเยื่อ กลับกัน รอยแดงนี้บ่งบอกถึงการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น และเป็นผลลัพธ์ที่ต้องการจากการบำบัด

เหตุผลที่รอยแดงไม่อันตราย

  • ไม่ใช่อาการบาดเจ็บ: รอยแดงไม่ได้เกิดจากการกระแทกหรือการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ แต่เกิดจากการกระตุ้นหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนัง
  • ไม่มีความเจ็บปวด: แม้ว่ารอยจะดูคล้ายฟกช้ำ แต่ผู้ที่เข้ารับบริการครอบแก้วมักไม่รู้สึกเจ็บปวดหลังทำเสร็จ
  • เกิดจากการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: การดูดผิวหนังขึ้นมาทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว
ประโยชน์ของการมีรอยแดงจากการครอบแก้ว
  1. กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: การที่หลอดเลือดฝอยขยายตัวจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้เนื้อเยื่อในบริเวณนั้นได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น
  2. ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ: กล้ามเนื้อที่ตึงเครียดหรือเกิดภาวะเกร็งตัวจะค่อย ๆ ผ่อนคลายหลังการบำบัด ทำให้อาการปวดเมื่อยลดลง
  3. กระตุ้นระบบน้ำเหลือง: การไหลเวียนของน้ำเหลืองที่ดีขึ้นช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  4. ส่งเสริมการฟื้นตัวของร่างกาย: เหมาะสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายหนัก ช่วยเร่งการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ
ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการครอบแก้ว?

แม้ว่าการครอบแก้วจะปลอดภัยในคนส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนรับบริการ ได้แก่:

  • หญิงตั้งครรภ์: โดยเฉพาะบริเวณท้องและหลังล่าง
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดออกง่าย: เช่น โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia)
  • ผู้ที่มีบาดแผลหรือการอักเสบบนผิวหนัง
  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ

รอยแดงจากการครอบแก้วไม่อันตราย และไม่ใช่รอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระแทก แต่เป็นผลมาจากการกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและระบบน้ำเหลือง รอยแดงที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังได้รับการฟื้นฟูและปรับสมดุล รอยแดงนี้จะค่อย ๆ จางลงภายใน 3-7 วัน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

หากคุณต้องการประสบการณ์การบำบัดที่ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด และกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต Cupping Therapy คือทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของรอยแดง หรือไม่แน่ใจว่าคุณเหมาะสมกับการครอบแก้วหรือไม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณ

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ให้บริการครอบแก้วที่ปลอดภัย มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย PROFFHAUS คือคำตอบของคุณ เราพร้อมดูแลสุขภาพของคุณอย่างใกล้ชิด และช่วยให้คุณสัมผัสประสบการณ์การบำบัดที่มีประสิทธิภาพ สนใจใช้บริการสามารถติดต่อเราได้ทันทีเพื่อจองคิวล่วงหน้า

สำหรับใครที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น โซนปทุมวัน สยาม เพลินจิต ราชดำริ และอโศก สามารถเดินทางมายัง PROFFHAUS ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถไฟฟ้า BTS เพียงลงที่สถานี พร้อมพงษ์ และเดินทางต่อเพียง 5 นาที หรือนั่งวินมอเตอร์ไซค์เพื่อความสะดวกรวดเร็ว PROFFHAUS ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก มีที่จอดรถรองรับลูกค้าอย่างเพียงพอ